ประวัติศาสตร์แห่งกาแฟเครื่องดื่มในยุคแห่งปัญญาตอนที่ 3 เครือข่ายสังคมในร้านกาแฟช่างไพศาล

           ชาวยุโรปคลั่งไคล้กาแฟเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่  16 -17 บางทีอาจเป็นเพราะทุกคนชอบบรรยากาศการเข้าสังคมมากกว่า  เพราะร้านกาแฟในยุโรปยุคนั้นมีแบบเฉพาะทางให้คุณตามไลฟ์สไตล์ที่คุณชื่นชอบ  แบบเดียวกับเว็บไชต์หรือบล็อกหรือเพจในอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน ประจวบเหมาะกับยุโรปยุคนั้นอยู่ในยุคฟื้นฟูศิปวิทยาการ มีการสุมหัวถกกันในแวดวงวิชาการมากมาย  เกิดอาการมนุษยนิยม  วิทยาศาสตร์เฟื้องฟูขึ้น เกิดการปฎิรูปศาสนา  ลามไปจนถึงการปฎิวัติ และเรื่องราวเหล่านี้เป็นส่วนเล็กๆในประวัติศาสตร์ที่ร้านกาแฟส่งผลต่อโลก

หากคุณเป็นนักธุรกิจงานชุกในศตวรรษที่ 17  คุณคงต้องหาร้านกาแฟประจำซักหลายๆร้าน  เพื่อการประกอบธุรกรรมของคุณ เพราะต้องคอยฟังข่าวสารเรื่องเงินๆทองๆ ราคาสินค้า  ราคาหุ้น ความก้าวหน้าทางวิทยาการ การลงทุนในอาณานิคม  ตลอดไปจนถึงข่าวก็อสซิบในวงสังคม แต่คุณคงต้องกรองเฟกนิวส์กันเอาเองเพราะร้านกาแฟที่คุณไปก็คล้ายช่องข่าวที่มียี่ห้อว่าน่าเชื่อถือแค่ไหนและข่าวมาจากไหน ร้านกาแฟกลายเป็นแหล่งชุมนุมจดหมายข่าว  ใบปลิว  ประกาศของราชการ ใบโฆษณาระดมทุน การหาเสียง แต่คุณจะปวดหัวน้อยลงถ้าไปถูกร้านตามแหล่งเฉพาะทางที่คุณต้องการ  ชาวเมืองจะบอกคุณได้ว่า  ร้านนี้เน้นแนวไหน  ยกตัวอย่างเช่น แนวการเมือง  แนวศาสนา  แนววิทยาศาสตร์  แนวกวีศิลปะ  และแนวธุรกิจ  ร้านกาแฟในยุคแรกๆจึงแบ่งออกเป็นย่านๆเพราะเริ่มที่จะไม่ได้ขายกาแฟอย่างเดียวเสียแล้ว มันกลายเป็นตลาดหุ้นไปจนถึงห้องประมูลสินค้า ในช่วงปี  ค.ศ.1680 ร้านกาแฟในลอนดอนไปไกลมากถึงขั้นเคยเป็นที่อยู่ไปรษณีย์ของลูกค้าประจำเพื่อการติดต่อ หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลที่ขยันขันแข็งไม่พลาดที่จะมีสายลับคอยเดินปะปนอยู่ในย่านต่างๆ เพื่อทราบความเป็นไปของกระแสสังคม

ภาพโดย StartupStockPhotos จาก Pixabay

          ร้านกาแฟในยุโรปตะวันตกเริ่มขึ้นในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด  ปัญญาชนย่านมหาวิทยาลัยอื่นๆต่างเริ่มหันมานิยมกาแฟ  เหล่าคณาจารย์ต่างเป็นห่วงถึงการมั่วสุมในร้านมากกว่าการอยู่ในห้องเลคเชอร์  แต่ในทางตรงข้ามมันกลับเป็นแหล่งพัฒนาวิทยาการใหม่ๆจากการแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆที่เป็นกันเองได้อย่างเหลือเชื่อ(แบบเดียวกับผลของการมาถึงของอินเตอร์เน็ตในศตวรรษที่ 20) ยกตัวอย่างเช่น  การถกเถียงกันครั้งหนึ่งในหมู่นักวิทยาศาตร์รอยัล  โซไซตี้  นำไปสู่การพัฒนากฎแรงโน้มถ่วงของ เซอร์ไอแซค  นิวตันจนสำเร็จ  จนเมื่อเวลาผ่านไปร้านกาแฟก็กลายเป็นสถานที่จัดการบรรยายทางวิทยาศาตร์  หรือเปิดตัวการค้นพบอะไรบางอย่าง นวัตกรรมใหม่  การรายงานการสำรวจโลกอย่างเป็นทางการ ในปลายศตวรรษที่ 17 นักลงทุนและนักวิทยาศาตร์เริ่มจับมือกันก่อตั้งบริษัทเพื่อแสวงหากำไรจากการลงทุนในโพ้นทะเล  หรือลงทุนกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆจนนำไปสู่การเกิดการปฎิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษต่อมา 

ร้านกาแฟยังเป็นต้นกำเนิดตลาดหุ้นในยุคแรก  เมื่อกลายเป็นแหล่งเชิญชวนระดมทุน  ซื้อขายหุ้นของบริษัท ดำเนินการควบคู่ไปกับรอยัลเอ็กซ์เซนจ์ตลาดหลักทรัพย์หลวงของอังกฤษ  แต่ผู้คนในร้านกาแฟก็ทำตัวเป็นโบรกเกอร์ จนรัฐบาลต้องวิ่งเข้ามาจัดการควบคุม  แต่การค้าขายหุ้นในร้านกาแฟก้ยังคงมีต่อไปจนร้านต้องคอยจดชื่อพวกโบรกเกอร์จอมโกงกันเอาเอง จนถึง ค.ศ.1773 ร้านกาแฟโจนาทานเป็นประเด็นเสียจนต้องย้ายอาคารไปเป็นนิวโจนาธานแล้วกลายเป็นเดอะสต๊อกเอ็กซ์เชนจ์  ตลาดการค้าหุ้นในที่สุด ในยุคนี้  อดัม  สมิท  บิดาแห่งเศรษฐศาสตร์ก็พัฒนาทฤษฎีทุนนิยมขึ้น เรื่องเงินๆทองๆในร้านกาแฟเหล่านี้ก็มีส่วนไม่น้อย

ภาพโดย Lorenzo Cafaro จาก Pixabay

                ร้านกาแฟไม่เพียงแต่นำภูมิปัญญาอันรุ่งเรืองมาสู่ศตวรรษใหม่ของมนุษย์  ยังนำความโกลาหลทางทางการเมืองมาด้วย ในช่วงศตวรรษที่ 18 ปัญญาชนเริ่มเอาวิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์ไปใช้ในมุมมองการเมือง  ในฝรั่งเศสเกิดกระแสต่อต้านขุนนางผู้มั่งคั่งจอมคอรัปชั่น  หัวขบวนแนวคิดเช่น  วอลแตร์ ถูกโยนเข้าคุก แต่เมื่อได้ออกมาก็ยังไม่เลิกตีพิมพ์หนังสือ ชอง ณาร์ค รุสโซ และชาร์ลส์ หลุยส์ เดอ  เซกงดา  มองเตสกิเออ ต่างก็เขียนในสิ่งที่รัฐบาลสั่งห้าม ร้านกาแฟในปารีสเป็นแหล่งมั่วสุม ร้านในฝรั่งเศสมีสารพัดประเภทกว่าในลอนดอนและไม่ปฎิเสธสุภาพสตรี 

จึงมีคนสารพัดชนชั้นตั้งแต่สูงสุดไปจนต่ำสุดเข้าๆออกๆร้านด้วยสารพัดจุดประสงค์  แม้รัฐบาลฝรั่งเศสจะพยายามอย่างยิ่งที่จับตามองร้านกาแฟใกล้ชิด ไปจนถึงการมีสายลับในร้าน  นำไปสู่การมีบทความลับ  จดหมายข่าวลับที่หลบเลี่ยงสายตารัฐบาลไปได้และกลายเป็นนิยมแพร่หลายเข้าไปอีก โครงสร้างภาษีที่ไม่เป็นธรรมและการบริหารงานผิดพลาดส่งผลเสียทางเศษฐกิจอย่างรุนแรงจนเกิดกระแสปฎิวัติไปทั่ว  ร้านกาแฟในกรุงปารีสในปี 1789 ผู้คนแออัดแน่นร้านจนลามออกมาภายนอกเพื่อฟังการปราศรัยของนักพูด การเปิดประชุมสภาไม่สามารถแก้ปัญหาได้และการจลาจลทางการเมืองครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้น จนกลายเป็นการปฎิวัติฝรั่งเศส จนกลายเป็นเชื้อแนวคิดไปทั่วโลก

ภาพโดย <a href="https://pixabay.com/th/users/wikiimages-1897/?utm_source=link-attribution&utm_medium=referral&utm_campaign=image&utm_content=60587">WikiImages</a> จาก <a href="https://pixabay.com/th/?utm_source=link-attribution&utm_medium=referral&utm_campaign=image&utm_content=60587">Pixabay</a>
ภาพโดย WikiImages จาก Pixabay

ในปัจจุบันร้านกาแฟไม่ได้ดุเดือดเหมือนในศตวรรษที่ 18 อีกแล้ว  แต่กาแฟยังคงเป็นสินค่าทรงเสน่ห์ ร้านกาแฟแปรตัวเองเป็นแบรนด์หรูน่านั่งทำงาน  ไปจนถึงร้านกาแฟชุมชนท้องถิ่นราคาย่อมเยาที่ทุกคนเข้าถึงได้  แถมยังขยายสภาพตัวเองไปเป็นกาแฟสำเร็จรูปที่แค่เติมน้ำร้อนก็กินได้   ร้านกาแฟยังคงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ พบปะสนทนาไปจนถึงบรรยากาศเก่าๆที่ผู้คนในยุคอินเตอร์เน็ตขนงานใน แล็ปท็อป โน้ตบุ๊ค มาทำที่ร้าน  กาแฟยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมเติบโตมาพร้อมกับสังคมทรงภูมิปัญญาของมนุษย์  เมื่อคุณดื่มกาแฟครั้งหน้าหวังว่าจะได้คำนึงถึงอิทธิพลของกาแฟที่ได้กระทำต่อโลก

อ่านสาระความรู้อื่นได้ที่ https://healthadays.com/health-a-days-logo

นามปากกา เกาทัณฑ์ทอง

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x